TOP

Sitemap

Sitemap Descriptions

เกี่ยวกับ สพธอ.

ข่าวประชาสัมพันธ์

อาเซียนกับความร่วมมือในการวางแนวทางแพลตฟอร์มดิจิทัลโปร่งใส เป็นธรรม และคุ้มครองผู้บริโภค

Digital Platform Service Documents
  • 30 ก.ย. 68
  • 161

อาเซียนกับความร่วมมือในการวางแนวทางแพลตฟอร์มดิจิทัลโปร่งใส เป็นธรรม และคุ้มครองผู้บริโภค

ในโลกที่การคลิกเพียงหนึ่งครั้งสามารถเชื่อมต่อผู้คนข้ามพรมแดน แพลตฟอร์มดิจิทัลจึงกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจและสังคมอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ในขณะที่อิทธิพลของแพลตฟอร์มเติบโตแบบไร้ขอบเขต แนวทางกำกับดูแลระดับภูมิภาคที่ชัดเจนในอาเซียนยังมีความท้าทายที่จะตอบโจทย์ยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยปัญหาอย่างข่าวปลอม การหลอกลวงออนไลน์ อัลกอริทึมที่ไม่โปร่งใส หรือการเก็บข้อมูลผู้ใช้อย่างไร้การควบคุม
All-Photo-80.jpg
นี่คือจุดเริ่มต้นของ “ASEAN Workshop on Regional Recommendations for Digital Platform Regulation” เวทีหารือเชิงนโยบายระดับภูมิภาคที่จัดขึ้น ณ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 4–5 กันยายน 2568 โดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ร่วมมือกับศูนย์บริหารรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government Center: DGC) กระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสาร (Ministry of Technology and Communications: MTC) สปป.ลาว ในฐานะเจ้าภาพร่วม

การประชุมครั้งนี้เป็นความพยายามแรกของอาเซียนในการผลักดันข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อวาง “แนวทางร่วมระดับภูมิภาค” ว่าด้วยการกำกับดูแลแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยมีผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าร่วม พร้อมด้วยผู้แทนจากสำนักงานเลขาธิการอาเซียน และผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และองค์การยูเนสโก
จุดเด่นสำคัญที่สุดของเวทีนี้ นอกเหนือจากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างประเทศ ยังมีการนำเสนอผลการศึกษาของ ETDA ศูนย์รัฐบาลดิจิทัล สปป.ลาว และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ว่าด้วยภูมิทัศน์ของแพลตฟอร์มดิจิทัล และการกำกับดูแลในอาเซียนเปรียบเทียบกับประสบการณ์ของภูมิภาคอื่น และมีการนำเสนอร่างข้อเสนอเบื้องต้นอย่างเป็นทางการครั้งแรกบนเวทีนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อวางหมุดหมายให้กับ
ความร่วมมือระยะยาวของภูมิภาคในการกำกับดูแลแพลตฟอร์มดิจิทัล
อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นธรรม และเชื่อมโยงกันได้
 
เราไม่สามารถกำกับแพลตฟอร์มได้โดยประเทศเดียว
การประชุมเริ่มต้นด้วยคำกล่าวเปิดจากศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของไทยซึ่งสะท้อนโจทย์ใหญ่ที่สุดของการกำกับดูแลในยุคนี้อย่างตรงไปตรงมา“แพลตฟอร์มดิจิทัลจำนวนมากไม่มีตัวตนทางกายภาพในประเทศที่ให้บริการ ซึ่งทำให้การกำกับดูแลโดยรัฐชาติแต่ละประเทศ โดยเฉพาะประเทศขนาดเล็ก กลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้นเรื่อย ๆ” ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์กล่าว พร้อมยกตัวอย่างแนวทางของสหภาพยุโรปในการสร้างกติกากลาง และความร่วมมือกันของประเทศสมาชิกซึ่งทำให้เสียงของสหภาพยุโรปมีน้ำหนักมากขึ้นในการเผชิญกับแพลตฟอร์มข้ามชาติขนาดใหญ่
แต่นอกเหนือจากระดับภูมิภาค ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ ยังชี้ว่า “การกำกับภายในประเทศเองก็ซับซ้อนเช่นกัน เนื่องจากกฎระเบียบเกี่ยวกับแพลตฟอร์มไม่ได้อยู่ในมือกระทรวงเพียงกระทรวงเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับหน่วยงานกำกับดูแลเฉพาะด้าน เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือแม้แต่กรมการขนส่งทางบก ยิ่งตอกย้ำความจำเป็นของการประสานระหว่างหน่วยงานด้านดิจิทัลกับหน่วยงานอื่น”
คุณวรรณภา พรมมัธยันต์ รองอธิบดีศูนย์บริหารรัฐบาลดิจิทัล กระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสารแห่ง สปป.ลาว ในฐานะเจ้าของโครงการร่วมเห็นตรงกันว่า “ไม่มีประเทศใดสามารถรับมือกับภัยจากแพลตฟอร์มได้ลำพัง โดยเฉพาะเมื่อภัยคุกคามอย่าง misinformation หรือ online scam ล้วนเคลื่อนที่ข้ามพรมแดน”

ข้อเสนอจากงานวิจัย: จุดเริ่มต้นของความร่วมมือในภูมิภาคอาเซียน
ข้อเสนอจากการศึกษา ครอบคลุมหลายมิติ เช่น การจัดให้มี market inquiry หรือการศึกษาตลาดเชิงลึกในด้านการแข่งขันทางการค้าของแพลตฟอร์ม การสร้างฐานข้อมูลสินค้าหรือบริการที่ไม่ปลอดภัยในระดับอาเซียน การกำหนดนโยบาย “Know Your Business Customer (KYBC) สำหรับผู้ขายใน marketplace การส่งเสริมบทบาทของแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ในการยกระดับความโปร่งใสโดยเฉพาะในประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคอย่างมีนัยสำคัญ ตลอดจนการพัฒนาความร่วมมือระดับภูมิภาค
เพื่อรับมือและบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามที่ข้ามพรมแดน เช่น online scams เป็นต้น
ดร. สลิลธร ทองมีนสุข นักวิชาการอาวุโสของ TDRI ได้กล่าวว่า “เราเห็นชัดว่าประเทศต่าง ๆ มีความตื่นตัวในการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้าน online fraud และการเฝ้าระวังภัยจากอัลกอริทึมมากขึ้น การสร้างกลไกความร่วมมือในเรื่องนี้จะเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมจากแนวทางภูมิภาค” และอธิบายว่า “ข้อเสนอจากงานวิจัยครั้งนี้ ไม่เพียงสะท้อนภาพรวมของสภาพแวดล้อมทางกฎหมายและแนวนโยบายในประเทศต่าง ๆ เท่านั้น แต่ยังเน้นไปที่การสร้างความร่วมมือและแนวทางร่วมกันในการแก้ไขปัญหาที่ "ยืดหยุ่นและค่อยเป็นค่อยไป” (phased and flexible cooperation) เพื่อให้ประเทศสมาชิกสามารถเลือกหยิบไปปรับใช้ตามลำดับความสำคัญของแต่ละประเทศ
 
จากเวทีหารือสู่กลไกระดับภูมิภาค: อาเซียนกำลังเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรม
ในช่วงท้ายของเวทีหารือ ตัวแทนจาก ETDA ซึ่งรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพร่วมในโครงการนี้กับ สปป.ลาว ได้กล่าวถึงแผนการดำเนินงานต่อจากนี้ โดยระบุว่า การจัดทำร่างข้อเสนอจากผลการศึกษา และจะเข้าสู่กระบวนการรับฟังความคิดเห็นทั้งในประเทศไทยและสมาชิกอาเซียน จากนั้นจะมีการสรุปและจัดทำเป็นรายงานฉบับสมบูรณ์เพื่อส่งต่อให้สำนักงานเลขาธิการอาเซียนพิจารณาเผยแพร่ต่อไป
Mr. Hazremi Hamid ตัวแทนจากสำนักเลขาธิการอาเซียนสะท้อนว่า “สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่เนื้อหาของข้อเสนอเท่านั้น หากคือ “เส้นทางนำไปปฏิบัติ” ที่เชื่อมโยงข้อเสนอเหล่านี้กับกรอบความร่วมมือของอาเซียนที่มีอยู่แล้วอย่าง DEFA (Digital Economy Framework Agreement) และ ADM2030 (ASEAN Digital Masterplan 2030) ทั้งนี้ DEFA ซึ่งมีบทบัญญัติว่าด้วยการแข่งขัน ความปลอดภัยออนไลน์ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และประเด็นเกิดใหม่อย่าง AI ซึ่ง DEFA จะกลายเป็นกลไกที่สำคัญของการกำกับดูแลแพลตฟอร์มดิจิทัลของอาเซียนต่อไป”
และเพื่อเป็นการผลักดันอย่างต่อเนื่อง อีกหนึ่งเวทีสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นคือ ASEAN-UNESCO Multistakeholder Forum on the Governance of Digital Platform ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงวันที่ ๒๐ - ๒๒ ตุลาคมนี้ โดยประเทศไทย จะร่วมเป็นเจ้าภาพกับยูเนสโก (UNESCO) สำนักงานเลขาธิการ และ European University Institute (EUI) เพื่อเปิดพื้นที่ให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม มีส่วนร่วมให้ความเห็นต่อแนวทางการกำกับดูแลแพลตฟอร์มดิจิทัลดังกล่าว ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพ ความเป็นธรรม และการบังคับใช้จริง
 All-Photo-156_0.jpg
จุดตั้งต้นของอาเซียนเพื่ออนาคตดิจิทัลที่ยั่งยืน
เมื่อเศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียนเติบโตแบบก้าวกระโดด และแพลตฟอร์มดิจิทัลมีลักษณะที่ข้ามพรมแดน การขาดความร่วมมือย่อมเสี่ยงทำให้ประเทศสมาชิกต้องรับมือกับความท้าทายเพียงลำพัง
เครื่องมือต่างๆ ในระดับภูมิภาคอาเซียน แม้ไม่ได้มีลักษณะเป็นกฎหมายชุดเดียวที่ใช้กับทุกประเทศ แต่อาจเริ่มต้นจากการตกลงร่วมกันในหลักการ แล้วค่อย ๆ สานต่อสู่โครงสร้างความร่วมมือที่ยืดหยุ่น เชื่อมโยง และเข้มแข็งขึ้นตามลำดับ
การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้จึงเป็นจุดตั้งต้นของการสร้างความร่วมมือกันของภูมิภาค ซึ่งจะกลายเป็นแนวทางนำไปสู่ระบบนิเวศดิจิทัลที่มีความเชื่อมั่น โปร่งใส และคุ้มครองผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง
ประเด็นเหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่อาเซียนให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และยังเชื่อมโยงกับการถกเถียงในระดับโลกเกี่ยวกับการกำกับดูแลแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งจะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยต่อในการประชุม ASEAN–UNESCO Multistakeholder Forum on the Governance of Digital Platforms ที่สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะร่วมเป็นเจ้าภาพกับองค์การยูเนสโก ร่วมกับสำนักเลขาธิการอาเซียน และโครงการ Global Initiative on the Future of the Internet ของสถาบันมหาวิทยาลัยยุโรป (EUI) ระหว่างวันที่ 20–22 ตุลาคม 2568 ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ สพธอ.
 

Rating :
Avg: 0 (0 ratings)