TOP

Sitemap

Sitemap Descriptions

เกี่ยวกับ สพธอ.

Knowledge Sharing

การวิเคราะห์การยืนยันตัวตนทางสังคม (Peer-Based Social Verification) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของ Digital ID

Digital ID Documents
  • 06 ก.ย. 68
  • 19

การวิเคราะห์การยืนยันตัวตนทางสังคม (Peer-Based Social Verification) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของ Digital ID

สรุปบทความโดยย่อ
การยืนยันตัวตนทางสังคม (Peer-Based Social Verification) เป็นกลไกที่ใช้เครือข่ายความสัมพันธ์ของผู้ใช้ปัจจุบันเพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือของผู้สมัครใหม่ แนวทางนี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของ Digital ID ลดความเสี่ยงจากการปลอมแปลงตัวตน และสร้างความมั่นใจในการทำธุรกรรมดิจิทัล การดำเนินการทำได้โดยให้ผู้ใช้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมช่วยยืนยัน เช่น การสแกน QR Code ในกรณีของ WeChat อย่างไรก็ตาม การนำวิธีนี้ไปใช้ต้องมีข้อกำหนดและแนวทางป้องกันที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการใช้ระบบในทางที่ผิดและรักษาความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์ม
 

1. บทนำ
Digital ID ได้กลายเป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่ขาดไม่ได้ของเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงโลกออนไลน์ การทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และการสื่อสาร [1] ทำให้การมี Digital ID ที่มั่นคงปลอดภัยและน่าเชื่อถือ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนที่มีความอ่อนไหว เช่น การธนาคาร การเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาล และอีคอมเมิร์ซ [2] ซึ่งต้องมีกระบวนการพิสูจน์และยืนยันตัวตนผู้ใช้งานที่เข้มงวดและน่าเชื่อถือ

นอกจากการตรวจสอบหลักฐานแสดงตนของผู้สมัครใช้บริการ อีกหนึ่งในแนวทางที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของ Digital ID คือ การให้ผู้ที่น่าเชื่อถือในสังคมหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครใช้บริการ ช่วยในการยืนยันตัวตนและความน่าเชื่อถือของผู้สมัครใช้บริการ วิธีการนี้สามารถสร้างสภาพแวดล้อมและสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัยและมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

2. แนวคิดการยืนยันตัวตนทางสังคม (Peer-Based Social Verification)
การยืนยันตัวตนทางสังคมหรือการยืนยันตัวตนโดยเพื่อน (Peer-Based Social Verification) เป็นแนวทางที่ใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์หรือเครือข่ายทางสังคมระหว่างผู้ใช้บริการปัจจุบันและผู้สมัครใช้บริการใหม่ เพื่อการยืนยันตัวตนและความน่าเชื่อถือของผู้สมัครใช้บริการใหม่ที่กำลังจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในสังคมของผู้ใช้บริการในระบบ

แนวคิดเรื่องการยืนยันตัวตนทางสังคมคือการที่บุคคลรับรองความสามารถหรือตัวตนของกันและกัน ซึ่งมักจะดำเนินการก่อนที่จะมีการแนะนำหรืออ้างอิงบริการใด ๆ [3] แนวคิดนี้มีรากฐานมาจากกระบวนการที่ไม่เป็นทางการที่พบเห็นได้ในประวัติศาสตร์ เช่น สมาคมวิชาชีพที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งสมาชิกจะรับรองคุณสมบัติและความน่าเชื่อถือของกันและกัน [3] โดยในบริบทปัจจุบัน การยืนยันตัวตนทางสังคมใช้ประโยชน์จากเครือข่ายที่เชื่อถือได้ ซึ่งมักจะเป็น การสอบถามที่ไม่เป็นทางการระหว่างเพื่อนร่วมงาน หรือชุมชนในวงกว้าง ที่ผู้คนจะสอบถามเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะนิสัยของผู้อื่นที่อาจต้องทำงานด้วยแต่ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว [3]

3. การนำแนวคิดการยืนยันตัวตนทางสังคมมาใช้ในการเพิ่มความปลอดภัยของ Digital ID
วัตถุประสงค์หลักของการนำการยืนยันตัวตนทางสังคมมาใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของ Digital ID คือการลดโอกาสในการปลอมแปลงตัวตนและการฉ้อโกงออนไลน์ รวมถึงอาจช่วยลดขั้นตอนที่ซับซ้อนในการสมัครใช้บริการได้ด้วย [5] การยืนยันตัวตนทางสังคมยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นใจในการใช้บริการดิจิทัล ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ประโยชน์ที่ได้รับจากการนำการยืนยันตัวตนทางสังคมมาใช้ เช่น
  • ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น: ช่วยป้องกันการฉ้อโกง การโจรกรรมข้อมูล การสวมรอยเป็นผู้อื่น และการสร้างบัญชีปลอม ได้ในระดับหนึ่ง [6]
  • ความสะดวกและประสิทธิภาพ: ช่วยลดขั้นตอนที่ซับซ้อนในการลงทะเบียนผู้สมัครใช้บริการใหม่ โดยที่ยังคงความน่าเชื่อถือไว้ [8]
  • การปฏิบัติตามข้อกำหนด: ช่วยเพื่อประสิทธิภาพและความเข้มงวดในการตรวจสอบตัวตนของผู้สมัครใช้ใหม่ เช่น KYC (Know Your Customer) และ AML (Anti-Money Laundering) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน [4] [7]
การยืนยันตัวตนทางสังคมซึ่งใช้ประโยชน์จากการเชื่อถือผู้ใช้บริการปัจจุบันในสังคมของระบบ ทำให้โครงสร้างทางสังคมนี้กลายเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ อย่างไรก็ตาม แต่การนำการยืนยันตัวตนทางสังคมไปใช้ในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย อาจแตกต่างจากการนำการยืนยันตัวตนทางสังคมไปใช้ในภาคส่วนที่ต้องมีการควบคุมอย่างเข้มงวด เช่น ภาคธนาคาร [9] เนื่องจากความแตกต่างในความเสี่ยงที่ยอมรับได้และข้อกำหนดด้านกฎระเบียบต่างๆ ซึ่งส่งผลต่อขอบเขตและลักษณะของการประยุกต์ใช้การยืนยันตัวตนทางสังคม
 
4. ตัวอย่างการใช้การยืนยันตัวตนทางสังคมในการเพิ่มความปลอดภัยของ Digital ID
ในการลงทะเบียนผู้สมัครใช้บริการใหม่ การตรวจสอบเอกสารแสดงตนหรือเอกสารสำคัญประจำตัวของผู้สมัครใช้บริการใหม่ อาจมีความเสี่ยงจากการใช้เอกสารปลอม โดยเฉพาะหากเป็นการลงทะเบียนใช้บริการแบบออนไลน์ ในการแก้ปัญหานี้ ผู้ให้บริการสามารถใช้ประโยชน์จากการให้ผู้ใช้บริการปัจจุบันที่รู้จักหรือเชื่อถือผู้สมัครใช้บริการใหม่ เป็นผู้ยืนยันข้อมูลและความมีตัวตนแท้จริงของผู้สมัครใช้บริการใหม่ ดังตัวอย่างนี้

ขั้นตอนการสมัครใช้บริการ WeChat [10]–[15]
  1. ดาวน์โหลด WeChat จาก App Store หรือ Google Play
  2. สมัครสมาชิกโดยการกรอกข้อมูลส่วนตัวและเบอร์โทรศัพท์
  3. ตั้งรหัสผ่าน และยอมรับเงื่อนไขการใช้งาน
  4. ยืนยันเบอร์โทรศัพท์ด้วย SMS OTP
  5. เลือกวิธีการยืนยันตัวตน
    • ยืนยันตัวตนด้วยบัตรเครดิต/เดบิต
    • ให้เพื่อนที่มี WeChat สแกน QR Code ให้
    • ผูกบัญชีธนาคารเพื่อเปิด WeChat Pay
  6. หากเลือก ให้เพื่อนที่มี WeChat สแกน QR Code ให้ จะมีการกำหนดคุณสมบัติของผู้ใช้ WeChat ที่สามารถสแกน QR Code ให้ผู้อื่นได้ ดังนี้
    • ใช้งาน WeChat มาแล้ว อย่างน้อย 6 เดือน (ถ้าเป็นผู้ใช้จีน) หรือ 1 เดือน (ถ้าเป็นต่างชาติ)
    • ไม่ได้ช่วยยืนยันใครในเดือนที่ผ่านมา
    • ไม่เคยถูกแบนจาก WeChat
    • (ถ้าเป็นผู้ใช้จีน) ต้องเปิดใช้งาน WeChat Pay แล้ว
จะเห็นได้ว่า การสมัคร WeChat ต้องผ่านขั้นตอนยืนยันตัวตน ซึ่งบางครั้งต้องให้ผู้ใช้ปัจจุบัน ช่วยสแกน QR Code เพื่อยืนยันว่าผู้ที่กำลังสมัครบัญชีใหม่เป็นผู้ที่เชื่อถือได้ อย่างไรก็ตาม การช่วยยืนยันตัวตนผู้อื่นอาจสร้างความเสี่ยงทางอ้อมให้กับตนเองได้ เช่น ความเป็นไปได้ที่จะถูกตรวจสอบหากเป็นผู้ที่ยืนยันตัวตนให้กับผู้ใช้บัญชีที่ละเมิดกฎ ดังนั้นการนำการยืนยันตัวตนทางสังคมมาใช้ ควรมีการกำหนดแนวทางป้องกันและแจ้งความเสี่ยงให้แก่ผู้ที่จะช่วยยืนยันตัวตนให้แก่ผู้อื่น เช่น จำกัดจำนวนครั้งที่สามารถช่วยยืนยันได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรือแนะนำให้ช่วยยืนยันเฉพาะคนที่รู้จักจริงและหลีกเลี่ยงการรับจ้างยืนยันเพื่อลดความเสี่ยงของตนเอง รวมทั้งกำหนดบทลงโทษหากพบว่าผู้ที่ช่วยยืนยันตัวตนให้ มีส่วนร่วมในการกระทำผิดด้วย
 
6. สรุปและแนวโน้มในอนาคต
การยืนยันตัวตนทางสังคม (Peer-Based Social Verification) คือกระบวนการที่ใช้เครือข่ายความสัมพันธ์ของผู้ใช้บริการปัจจุบันเพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือของผู้สมัครใช้บริการใหม่ ซึ่งช่วยเสริมความปลอดภัยของ Digital ID และลดความเสี่ยงจากการปลอมแปลงตัวตนและการฉ้อโกงออนไลน์ แนวทางนี้สำคัญเพราะสร้างความมั่นใจทั้งต่อผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะในการทำธุรกรรมที่มีความอ่อนไหว เช่น ธุรกรรมด้านการเงิน ในการยืนยันตัวตนทางสังคม สามารถทำได้โดยให้ผู้ใช้บริการปัจจุบันที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการช่วยยืนยันให้ เช่น การสแกน QR Code ในกรณีของ WeChat อย่างไรก็ตาม การช่วยยืนยันให้ต้องมีข้อกำหนดที่ชัดเจน เช่น จำกัดจำนวนครั้ง และแจ้งความเสี่ยงแก่ผู้ช่วยยืนยันให้ เพื่อป้องกันการใช้ระบบในทางที่ผิด การกำหนดแนวทางเหล่านี้ทำให้ระบบมีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นในสังคมดิจิทัล


Click to download PDF File



อ้างอิง
[1]       M. Robles-Carrillo, “Digital identity: an approach to its nature, concept, and functionalities”, Int. J. Law Inf. Technol., vol. 32, no. 1, p. eaae019, Jun. 2024.
[2]       S. McClune, “What Is Digital Identity? Definition & Key Risks”, Accessed: Jun. 30, 2025. [Online]. Available: https://www.beyondencryption.com/blog/what-is-digital-identity-definition
[3]      “Peer Verification Systems in Digital Protector Spaces | Internews”, Accessed: Jun. 08, 2025. [Online]. Available: https://internews.org/wp-content/uploads/2024/11/Peer-Verification-Systems-in-Digital-Protector-Spaces.pdf
[4]       “What Is Identity Verification and How Does it Work?”, Accessed: Jun. 30, 2025. [Online]. Available:https://www.socure.com/glossary/identity-verification/
[5]      “ทำความรู้จัก Digital ID คืออะไร? เรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้”, Ditto. Accessed: Jun. 30, 2025. [Online]. Available: https://dittothailand.com/th/dittonews/gov-what-is-digital-id/
[6]       P. Tkhir, “What is Digital Identity Verification? Use Cases & Technologies”, Euristiq. Accessed: Jun. 30, 2025. [Online]. Available: https://euristiq.com/what-is-digital-identity-verification/
[7]       D. Antosz, “Digital identity verification: What it is and how it works”, Plaid. Accessed: Jun. 30, 2025. [Online]. Available: https://plaid.com/resources/identity/digital-identity-verification/
[8]       M. McKeown, “Digital Identity Verification”, Segpay. Accessed: Jun. 30, 2025. [Online]. Available: https://segpay.com/blog/digital-identity-verification/
[9]       J. Stepnov, “ID Verification in Social Media: Secure Your Social Network”, Regula. Accessed: Jun. 30, 2025. [Online]. Available: https://regulaforensics.com/blog/social-media-identity-verification/
[10]     WeChat Help Center, “How do I sign up for WeChat?”, WeChat. Accessed: Jun. 30, 2025. [Online]. Available: https://help.wechat.com/cgi-bin/micromsg-bin/oshelpcenter?opcode=2&id=120813euejvf141023eqnajz&t=help_center/w_topic_detail
[11]     WeChat Safety Center, “Sign-up for a WeChat Account”, WeChat. Accessed: Jun. 30, 2025. [Online]. Available: https://safety.wechat.com/en_US/article/GI7kDqSLQF6iM0nZ
[12]     WeChat Help Center, “How do I sign up WeChat if I need a friend to scan the QR code?”, WeChat. Accessed: Jun. 30, 2025. [Online]. Available: https://help.wechat.com/cgi-bin/micromsg-bin/oshelpcenter?opcode=2&id=180129ema3mz180129zvnneq&t=help_center/w_topic_detail
[13]     WeChat Help Center, “WeChat Login Security Verification”, WeChat. Accessed: Jun. 30, 2025. [Online]. Available: https://help.wechat.com/cgi-bin/micromsg-bin/oshelpcenter?opcode=2&id=200424RvA7ZJ200424uyeQfY&t=help_center/w_topic_detail
[14]     A. Andy, “Mastering Registration and Verification on WeChat: A Step-by-Step Guide”, getchip. Accessed: Jun. 30, 2025. [Online]. Available: https://getchip.com/mastering-registration-and-verification-on-wechat-a-step-by-step-guide/
[15]     Abridge Academy, “How to verify your WeChat account for free”, Abridge Academy. Accessed: Jun. 30, 2025. [Online]. Available: https://abridgeacademy.com/how-to-verify-your-wechat-account-for-free/

Rating :
Avg: 0 (0 ratings)