| 1 |
เข้าไปลงทะเบียน/ตรวจสอบผล/ดาวน์โหลดใบรับแจ้งฯ และแสดงคิวอาร์โคดเมื่อมีผู้มาขอตรวจสอบใบรับแจ้งฯ ได้ทางไหน |
เปิดแอป internet ในมือถือ พิมพ์ https://driververify.mdes.go.th
หรือพิมพ์ https://s.one.th/dvfy |
| 2 |
วิธีลงทะเบียนเข้าใช้งาน |
สามารถสมัครเพื่อลงทะเบียนได้ 2 วิธี คือ
1. สมัครด้วย ThaiD
2. สมัครด้วยการกรอกข้อมูลด้วยตัวเอง
ดู VDO แนะนำขั้นตอนได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=xS-qnglfrl0
|
| 3 |
ข้อมูลอะไรบ้างที่ต้องใช้ ตอนกรอกข้อมูลด้วยตัวเอง |
ข้อมูลที่ต้องกรอก ได้แก่
- ชื่อ
- นามสกุล
- เบอร์โทรศัพท์
- เลขบัตรประชาชน
- เลขหลังบัตรประชาชน
- ทะเบียนรถ
- จังหวัดของทะเบียนรถ ซึ่งต้องตรงกับจังหวัดที่ประกอบอาชีพ |
| 4 |
แพลตฟอร์มหรือแอปที่เข้าร่วม มีอะไรบ้าง
หน้าเว็ปไซต์มีการแปลภาษา ทำให้ไม่รู้ว่าควรเลือกแพลตฟอร์มไหน |
ชื่อแพลตฟอร์มหรือแอปที่เข้าร่วม แสดงเป็นตัวเลือกในหน้าลงทะเบียน ตามลำดับดังนี้
1. Bolt
2. Grab
3. CABB
4. inDrive
5. LALAMOVE
6. LINE MAN
7. Maxim
8. TADA
9. Fingogo |
| 5 |
หากได้รับ SMS ว่า "ไม่ผ่านการตรวจสอบ" ต้องดำเนินการอย่างไร |
หากเป็นการกรอกข้อมูลผิด สามารถกลับไปแก้ไขข้อมูล เพื่อส่งตรวจสอบอีกครั้งได้ |
| 6 |
ระยะเวลาที่จะได้รับผลการตรวจสอบ |
จะได้รับแจ้งผลการลงทะเบียนทาง SMS ในระยะเวลาไม่เกิน 2 วัน |
| 7 |
ลงทะเบียนสำเร็จ ได้ใบรับแจ้งฯแล้ว ต้องทำอย่างไรต่อ |
สามารถดาวน์โหลดใบรับแจ้งฯ และนำไปดำเนินการจดทะเบียน รย.17/รย.18 กับกรมการขนส่งทางบกให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 28 ก.พ. 2569 ทั้งนี้ หากไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาดังกล่าว ท่านจะไม่สามารถนำรถมาให้บริการได้
ใบรับแจ้งลงทะเบียน เป็นเพียงเอกสารยืนยันว่าได้เข้าสู่กระบวนการจดทะเบียนเท่านั้น และยังไม่ถือว่าเป็นการจดทะเบียนสำเร็จ |
| 8 |
กรณีที่มีเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบใบรับแจ้งฯ ต้องดำเนินการอย่างไร |
เข้าเว็บเดียวกับที่ลงทะเบียน (ดูที่ข้อ 1)
เมื่อเข้าสู่ระบบสําเร็จ ระบบจะแสดงหน้าจอรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลรถที่ได้ลงทะเบียนไว้
รวมถึงคิวอาร์โคดสําหรับให้เจ้าหน้าที่สแกนเพื่อตรวจสอบใบรับแจ้งลงทะเบียน |
| 9 |
หากได้ใบรับแจ้งลงทะเบียน จาก Driver Verify แล้ว ยังต้องขอหนังสือรับรองจากแอปต้นสังกัดหรือไม่ |
ไม่ต้องขอ โดยสามารถใช้เอกสารอย่างใดอย่างหนึ่งประกอบการจดทะเบียนได้ |
| 10 |
ลงทะเบียนได้ใบรับแจ้งฯ มาแล้ว แต่รายละเอียดผิด เช่น เลขทะเบียนรถ จังหวัด แอปที่ขับ ฯลฯ อยากแก้ไขข้อมูล ต้องทำอย่างไร |
ติดต่อโทร 02 257 1741 เพื่อแจ้งขอแก้ไขข้อมูล หรือแจ้งเข้ามาที่ฟอร์มบนเว็บลงทะเบียน (ดูที่ข้อ 1) |
| 11 |
ลงทะเบียนมาแล้ว แต่เปลี่ยนใจอยากขอลบข้อมูล ต้องทำอย่างไร |
ติดต่อโทร 02 257 1741 เพื่อแจ้งขอลบข้อมูล หรือแจ้งเข้ามาที่ฟอร์มบนเว็บลงทะเบียน (ดูที่ข้อ 1) |
| 12 |
ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการสมัครเป็นคนขับบนแพลตฟอร์ม แต่มาลงทะเบียนผ่านระบบ Driver Verify แล้วได้รับ SMS ว่า "ไม่ผ่านการตรวจสอบ" มาแล้ว
หากสมัครเป็นคนขับบนแพลตฟอร์มแล้วเสร็จ จะยังสามารถลงทะเบียนในระบบนี้ เพื่อขอใบรับแจ้งฯ ได้หรือไม่ |
สามารถเข้าเว็บลงทะเบียน (ดูที่ข้อ 1) มาแก้ไขข้อมูล เพื่อให้ระบบนำส่งให้แพลตฟอร์มตรวจสอบอีกครั้งได้ |
| 13 |
จด รย. 17 / รย. 18 ใช้เอกสารอะไรบ้าง ขั้นตอนเป็นอย่างไร |
ดูข้อมูลได้จาก https://www.grabdriverth.com/news/2025/car/rh-process หรือ https://linemanpartner.com/driver-verify/
หากมีคำถามในส่วนนี้ สอบถามได้กับแอปต้นสังกัด หรือติดต่อกรมการขนส่งทางบก โทร 1584 หรือ 02 271 8721 - 24 (ในวัน และเวลาราชการ) |
| 14 |
ลงทะเบียนไม่ได้ เนื่องจากขนาดเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์ เกินกว่า 125 ซีซี |
กรมการขนส่งทางบกได้กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับรถที่จะนำมาจดทะเบียน รย.17 และ รย.18 ดังนี้
1) รถจักรยานยนต์ที่จะนำมาจดทะเบียน รย.17 ต้องมีขนาดเครื่องยนต์อยู่ระหว่าง 50 - 125 ซีซี
2) รถยนต์ที่จะนำมาจดทะเบียน รย.18 ต้องมีอายุไม่เกิน 9 ปี นับแต่วันที่รถยนต์นั้นจดทะเบียนครั้งแรก |
| 15 |
รถติดไฟแนนซ์ ดำเนินการขึ้นทะเบียนไม่ได้ต้องทำอย่างไร? ทางขนส่งแจ้งว่าต้องใช้เล่มจริง |
กรมการขนส่งทางบกได้แก้ไขระเบียบการจดทะเบียนรถ รย.17 และ รย.18 ให้ใช้สำเนาคู่มือจดทะเบียนประกอบการจดทะเบียนได้ จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2569 |
| 16 |
ไม่ได้มีทะเบียนบ้านใน กทม. ทางขนส่งแจ้งว่า ต้องใช้ทะเบียนบ้านใน กทม. เท่านั้น
หรือต้องมีใบรับรองจากคนที่มีทะเบียนมาใน กทม. มารับรอง |
กรมการขนส่งทางบกได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การจดทะเบียน รย.17 โดยอนุญาตให้ผู้ขับขี่สามารถรับรองพื้นที่การใช้รถประกอบอาชีพของตนเองได้ จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2569 เช่น ทะเบียนบ้านอยู่ที่ปทุมธานี ก็สามารถนำรถจักรยานยนต์ มาจดทะเบียน รย.17 ที่กทม. และใช้เป็นรถรับจ้างที่ กทม. ได้
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ดังกล่าวใช้เฉพาะการรับจ้างในเขตกรุงเทพมหานครฯ เท่านั้น |